“ขณะนี้เรากำลังให้ทีมต่างๆ จัดการทุกอย่างโดยใช้ตารางข้อมูล จากประสบการณ์ของผม ทำให้รู้ว่า พอคุณเริ่มโยนข้อมูลเข้าไป ระบบการทำงานพวกนั้นจะทำให้จัดการได้ยาก”
เจส โคลโค นักโภชนาการที่ขึ้นทะเบียนและผู้อำนวยการด้านคุณภาพที่ Wicked Kitchen อธิบายถึงสภาพการทำงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่บริษัทอาหาร ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ว่า “แม้เราเป็นแค่บริษัทเล็กๆ ที่มีบุคลากรอันชาญฉลาด แต่เราก็มีผลิตภัณฑ์กว่า 140 รายการในสหราชอาณาจักร ในช่วงแรก เราไม่มีอะไรเลยในสหรัฐอเมริกา แต่เพื่อที่จะจัดการข้อมูลทั้งหมดนั้นให้ได้ เราจึงต้องมีระบบที่ไว้ใจได้เพื่อเป็นแหล่งเก็บข้อมูลเหล่านั้น” ทุกวันนี้สายงานต่างๆ สามารถเข้าไปใช้ข้อมูลที่จำเป็นได้ การสื่อสารก็ราบรื่น และประสิทธิภาพก็เพิ่มสูงขึ้น แล้วบริษัทนี้ปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างไร
สองพี่น้องชื่อเดเรกและแชด ซาร์โน ก่อตั้ง Wicked Kitchen ขึ้นในปี 2018 ทั้งคู่เป็นหัวหน้าเชฟและมีพันธกิจร่วมกันคือ ช่วยให้ผู้คนได้ทานพืชผักผลไม้มากขึ้น โดยมีปรัชญาที่ว่า การทานพืชผักผลไม้นั้นย่อมดีกว่า ทั้งสำหรับเรา โลก และทุกคนที่อาศัยบนโลกนี้ แต่ไม่เพียงแค่นำเสนออาหารที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารคู่นี้ยังออกแบบรสชาติ ผิวสัมผัส และความอร่อยน่าทานอีกด้วย หลังจากนั้น ในปี 2019 Wicked ก็เริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน Tesco และสามารถขายอาหารที่ใช้พืชเป็นส่วนประกอบหลักนี้ได้มากถึง 10 ล้านรายการภายในเวลาเพียง 16 เดือน ส่งผลให้ Tesco ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้พืชเป็นส่วนประกอบหลัก ในปี 2021 Wicked ได้เปิดตัวธุรกิจในสหรัฐอเมริกา โดยจำหน่ายสินค้าผ่านทางซุปเปอร์มาร์เก็ต Sprouts Farmers Market ร้านค้าปลีกต่างๆ ในเครือ Kroger รวมถึงร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าและซื้อผลิตภัณฑ์ของ Wicked ผ่านโกดังสินค้า โคลโคกล่าวว่า “เรากำลังสร้างบริษัทที่สหรัฐฯ ในแบบฉบับของตนเอง และมุ่งที่จะเป็นบริษัทวีแกนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก”
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดสหรัฐอเมริกานั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลายผลิตภัณฑ์นั้นอ้างอิงจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในสหราชอาณาจักร โดยในช่วงเริ่มแรก จำเป็นต้องปรับ SKU ในด้านสูตรอาหาร บรรจุภัณฑ์ ข้อบังคับ ข้อกำหนดการทำฉลากอาหารและเครื่องดื่ม และใบรับรองสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา โคลโคกล่าวว่า “เราเปิดตัว SKU 25 รายการภายในเวลาแค่ 6 เดือนเท่านั้น” ยอดขาย 10 ล้านรายการภายในเวลา 16 เดือนที่สหราชอาณาจักรถือเป็นการนำโชคให้กับธุรกิจในสหรัฐอเมริกา หากแนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเป็นไปตามนี้จริง ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาก็น่าจะตอบรับอาหารวีแกนแสนอร่อยของ Wicked Kitchen เช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ Wicked ยังเดินหน้าธุรกิจของตนโดยยึดความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ เพื่อตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง
Wicked มุ่งที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว และทราบดีว่า บริษัทต้องมีระบบจัดการข้อมูลที่เป็นเลิศ จึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้ “ปัจจุบันนี้ Wicked ต้องจัดการข้อมูลมหาศาล ซึ่งเก็บอยู่ในหลายที่และดูแลโดยบุคลากรหลายฝ่าย และบางครั้งก็ไม่ได้อัปเดตข้อมูลเร็วพอที่จะสนองความต้องการใช้งาน หรืออัปเดตข้อมูลที่หนึ่งแต่ไม่ได้อัปเดตอีกที่หนึ่ง” โคลโคกล่าวต่อว่า “ผมอยากให้เราเริ่มจัดการที่จุดเริ่มต้นกันจริงๆ ด้วยการใช้ PLM ที่มีความสามารถครบครันและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุด โดยทำให้เรามีข้อมูลในรูปแบบที่ใช้งานได้ ทีมงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็สามารถหาพบได้ง่าย และผมก็ไม่ใช่คนที่ดูแลข้อมูลทั้งหมดนี้แต่เพียงผู้เดียว เราอยากให้บุคลากรทั้งบริษัทแลกเปลี่ยนข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจริงแหล่งเดียว”
ในเรื่องการติดตั้งและกำหนดค่านั้น โคลโคกล่าวว่า “ผมคิดว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีจริงๆ ทีมงานร่วมงานกับผมและทำงานได้ดีมาก อย่างเรื่องหนึ่งคือ ผมนึกออกว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไรดี และก็เข้าใจว่าต้องมีช่องเก็บข้อมูลคุณลักษณะอื่นๆ สักร้อยช่อง ทีม Centric บอกกับผมว่า ‘โอเค มาลงมือทำกัน’ และในที่ประชุมครั้งต่อมา พวกเขาก็ทำเสร็จเรียบร้อย การได้ทำงานกับคนที่ตอบสนองและตั้งใจฟังอย่างดีนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว ผมบอกพวกเขาว่า ‘ผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรในภาษาที่พวกคุณเข้าใจ เพราะฉะนั้นผมจะพูดและให้ตัวอย่างเหตุการณ์กับคุณก็แล้วกัน จากนั้นพวกคุณก็มาช่วยผมหาวิธีใส่ข้อมูลนี้ลงในระบบ’ พวกเขาใจดีมากๆ และคอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี แล้วงานนั้นก็เรียบร้อย”
โคลโคอัปเดตว่า “ผมใส่ข้อมูลลงไปเกือบเสร็จแล้ว ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นผลิตภัณฑ์และข้อมูลในระบบ จากนั้นเราจะสร้างส่วนผสมและชุดข้อมูลทางโภชนาการให้กับอาหารแต่ละรายการ และผมก็ตื่นเต้นกับงานนี้เช่นกัน”
Wicked ต้องการที่จะเปิดตัวระบบ PLM แล้วในขณะนี้ และกำลังพยายามที่จะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบให้เร็วที่สุด โคลโคกล่าวว่า “ผมคิดว่า Centric จะเป็นเครื่องมือขนาดมหึมาในการค้นหาทรัพยากรที่จะเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารและการค้นหาซัพพลายเออร์ที่มีความสามารถ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจจริงๆ และถึงแม้ว่าเราไม่ได้ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์รายใดในตอนนี้ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการของเราก็พร้อมที่จะออกไปสำรวจและตรวจสอบความสามารถของโรงงานต่างๆ เราจะเก็บข้อมูลทั้งหมดนั้นไว้ใน Centric และนำมาพิจารณาว่า เราอยากจะใช้ซัพพลายเออร์รายใดหลังจากที่ไปสำรวจดูสายการผลิตของโรงงานเหล่านั้นแล้ว ผมคิดว่า นี่จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในด้านการทำความเข้าใจเพื่อทราบว่า เราจะตั้งเป้าหมายกำไรที่จุดไหน และเราจะทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น”
ประสบการณ์โดยรวมทั้งหมดที่ผ่านมาได้จุดไฟในการทำงานให้กับโคลโค “ผมมีความสุขมากๆ กับสิ่งที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงการได้เป็นพันธมิตรกับ Centric ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจจริงๆ ทุกคนทำได้ดีมาก ผมพอใจกับการก้าวเดินมาถึงจุดนี้จริงๆ และผมก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่า ถูกทอดทิ้งให้เผชิญกับสิ่งต่างๆ เองหลังจากที่ได้ติดตั้งและกำหนดค่าระบบ PLM ไปแล้ว เพราะทีม Centric คอยช่วยเหลือผมมาโดยตลอด”
